ฉี่ขัด ฉี่บ่อย ตอนกลางคืน อาการเตือนของมะเร็งต่อมลูกหมาก?

       อาการปัสสาวะผิดปกติ เช่น ฉี่ขัด, ฉี่บ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน, หรือ ปัสสาวะไม่สุด เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชายวัยกลางคนขึ้นไป หลายคนอาจมองว่าเป็นเพียงความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่าอาการเหล่านี้ อาจเป็น สัญญาณเตือนของ “มะเร็งต่อมลูกหมาก” (Prostate Cancer) หนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายทั่วโลก



รู้จักกับ “ต่อมลูกหมาก” และหน้าที่ของมัน

       ต่อมลูกหมาก (Prostate Gland) เป็นอวัยวะขนาดเล็กในระบบสืบพันธุ์เพศชาย ตั้งอยู่ด้านล่างของกระเพาะปัสสาวะ และล้อมรอบท่อปัสสาวะส่วนต้น หน้าที่หลักของต่อมลูกหมากคือการผลิตของเหลวที่ผสมอยู่ในน้ำอสุจิ ซึ่งช่วยให้สเปิร์มมีชีวิตอยู่และเคลื่อนไหวได้ดี

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ขนาดของต่อมลูกหมากมักจะขยายตัวตามธรรมชาติ เรียกว่า ภาวะต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia - BPH) ซึ่งแม้จะไม่ใช่มะเร็ง แต่ก็สามารถก่อให้เกิดอาการคล้ายกับมะเร็งได้เช่นกัน


อาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก

       ในระยะแรก มะเร็งต่อมลูกหมากมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อเซลล์มะเร็งเริ่มเติบโตจนไปกดท่อปัสสาวะหรือกระจายไปยังเนื้อเยื่อโดยรอบ อาการต่างๆ จะเริ่มปรากฏ โดยเฉพาะ:

       • ปัสสาวะขัด (ต้องเบ่งเวลาปัสสาวะ)

       • ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในตอนกลางคืน (Nocturia)

       • รู้สึกปัสสาวะไม่สุด

       • กลั้นปัสสาวะไม่อยู่

       • มีเลือดปนมาในปัสสาวะหรือน้ำอสุจิ

       • เจ็บหรือแสบขณะปัสสาวะ

       • เจ็บขณะหลั่งน้ำอสุจิ

       • อาการเจ็บหลังส่วนล่าง สะโพก หรือต้นขา (หากมะเร็งแพร่กระจาย)


ฉี่บ่อย ฉี่ขัด = ต่อมลูกหมากโต หรือ มะเร็ง?

       อาการปัสสาวะผิดปกติสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น:

       • ต่อมลูกหมากโต (BPH): พบมากในผู้ชายอายุมากกว่า 50 ปี มักเริ่มมีอาการปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน

       • มะเร็งต่อมลูกหมาก: อาการคล้ายกันมากกับ BPH แต่มีความเสี่ยงสูงและอาจลุกลามได้

       • การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

       • นิ่วในทางเดินปัสสาวะ

       • โรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ดี

       • ดังนั้น การตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อแยกสาเหตุและให้การรักษาที่เหมาะสม


ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก

       • อายุ: ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นชัดเจนหลังอายุ 50 ปี

       • กรรมพันธุ์: หากมีพ่อหรือพี่น้องเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า

       • เชื้อชาติ: คนผิวดำมีโอกาสเป็นมากกว่าคนผิวขาว

       • อาหาร: การบริโภคไขมันสัตว์สูง อาหารแปรรูป อาจเพิ่มความเสี่ยง

       • การใช้ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ในระยะยาว


การตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก

       เพื่อให้สามารถพบโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น แนะนำให้ผู้ชายที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป (หรือ 45 ปี หากมีประวัติครอบครัว) เข้ารับการคัดกรองดังนี้:

       • การตรวจ PSA (Prostate-Specific Antigen): เป็นการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับโปรตีนที่ผลิตโดยต่อมลูกหมาก หากค่าสูง อาจบ่งบอกถึงมะเร็งหรือปัญหาอื่น ๆ

       • การตรวจทางทวารหนัก (Digital Rectal Exam - DRE): แพทย์จะใช้นิ้วสวมถุงมือตรวจคลำขนาด รูปร่าง และความแข็งของต่อมลูกหมาก

       • MRI หรือ Ultrasound: ใช้ในกรณีที่สงสัยหรือเพื่อเตรียมการตรวจชิ้นเนื้อ

       • การเจาะชิ้นเนื้อ (Biopsy): ยืนยันการวินิจฉัยมะเร็ง


แนวทางการรักษา

       หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะของโรค, อายุ, สุขภาพโดยรวม และความรุนแรงของมะเร็ง:

       • เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด (Active Surveillance) สำหรับผู้ป่วยที่มะเร็งเติบโตช้า

       • การผ่าตัดต่อมลูกหมาก (Prostatectomy)

       • การฉายรังสี (Radiation Therapy)

       • การบำบัดด้วยฮอร์โมน (Hormone Therapy) เพื่อลดฮอร์โมนเพศชายที่มะเร็งใช้เจริญเติบโต

       • เคมีบำบัด (Chemotherapy) ในกรณีที่มะเร็งลุกลาม


การป้องกันและดูแลตนเอง

       • กินอาหารที่มีผัก ผลไม้ ไฟเบอร์สูง ลดไขมันจากสัตว์

       • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

       • ไม่สูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์

       • ตรวจสุขภาพประจำปี

       • ระวังอาการผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ และรีบพบแพทย์หากมีอาการฉี่ขัด ฉี่บ่อย หรือปัสสาวะไม่สุด


       “ฉี่ขัด ฉี่บ่อยตอนกลางคืน” อาจเป็นแค่อาการของต่อมลูกหมากโต แต่ก็สามารถเป็นสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็งต่อมลูกหมากได้เช่นกัน ผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไปไม่ควรมองข้าม ควรรับการตรวจคัดกรองเป็นประจำ เพราะการพบมะเร็งในระยะแรกเริ่ม มีโอกาสรักษาหายสูงมาก และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ