ไวรัสตับอักเสบบี ภัยเงียบ...แต่ร้าย! อันตรายถึงมะเร็งตับ

       เนื่องในวันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันตับอักเสบโลก (World Hepatitis Day)” เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคตับอักเสบ ซึ่งเป็นภัยเงียบที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพทั่วโลก โดยเฉพาะ “ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)” ที่คร่าชีวิตคนไปปีละกว่าหนึ่งล้านรายทั่วโลก และในหลายกรณี ผู้ติดเชื้อไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเผชิญกับมัน



แล้วไวรัสตับอักเสบบีคืออะไร ?

       ไวรัสตับอักเสบบี (HBV) เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อผ่านเลือด สารคัดหลั่ง และเพศสัมพันธ์ โดยเมื่อเข้าสู่ร่างกาย มันจะเข้าทำลายเซลล์ตับ ทำให้เกิดการอักเสบ หากร่างกายไม่สามารถกำจัดไวรัสได้ ก็จะกลายเป็น “ผู้ติดเชื้อเรื้อรัง” ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะพัฒนาไปสู่ “โรคตับแข็ง” และ “มะเร็งตับ” ในอนาคต


แล้วทำไม...ไวรัสตับอักเสบบีถึงอันตราย?

       สิ่งที่ทำให้ไวรัสชนิดนี้ “เงียบแต่ร้าย” คือ

        ● ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ ไม่มีอาการใด ๆ ในระยะแรก

        ● มักพบโดยบังเอิญในการตรวจสุขภาพหรือตรวจเลือดก่อนผ่าตัด

        ● เมื่อกลายเป็นผู้ติดเชื้อเรื้อรังแล้ว การทำลายตับจะเกิดขึ้น อย่างช้า ๆ และต่อเนื่อง

        ● หลายรายตรวจพบอีกครั้งเมื่ออาการรุนแรง เช่น ตับวายหรือตับโต จนสายเกินการรักษา


เส้นทางจากไวรัส... สู่มะเร็งตับ อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

       ไวรัสตับอักเสบบี สามารถกระตุ้นให้ตับเกิดพังผืด (fibrosis) และพัฒนาไปสู่ โรคตับแข็ง (Cirrhosis) และ มะเร็งตับ (Hepatocellular Carcinoma) ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีการติดเชื้อเรื้อรังนานหลายปี หากไม่ได้รับการติดตามและดูแลอย่างเหมาะสม


ใคร... คือกลุ่มเสี่ยงที่ควรรีบตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ?

        ● คนในครอบครัวหรือคู่สมรสของผู้ที่ติดเชื้อ

        ● ผู้ที่เคยได้รับเลือดหรืออวัยวะก่อนปี 2535

        ● ผู้ที่มีประวัติใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือสัก เจาะหูตามร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน

        ● บุคลากรทางการแพทย์

        ● ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน


ตรวจพบไวรัสตับอักเสบบีแล้ว… ต้องทำอย่างไร ?

       1. ตรวจยืนยันเพิ่มเติม เพื่อแยกประเภทว่าติดเชื้อระยะเฉียบพลันหรือเรื้อรัง

       2. หากเป็นผู้ติดเชื้อเรื้อรัง ต้องมีการ ติดตามการทำงานของตับ และ ปริมาณไวรัส เป็นระยะ

       3. แพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัส หากมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคตับรุนแรง

       4. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ และควบคุมน้ำหนักเพื่อลดภาระตับ


รู้มั้ย ป้องกันได้... ด้วยวัคซีน

       ข่าวดี คือ ไวรัสตับอักเสบบีสามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน!

        ● วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงถึงกว่า 95%

        ● ควรฉีดตั้งแต่แรกเกิด และฉีดให้ครบ 3 เข็มตามกำหนด

        ● ผู้ใหญ่ที่ไม่เคยฉีดสามารถตรวจภูมิคุ้มกันและรับวัคซีนได้เช่นกัน


       ดังนั้น...ไวรัสตับอักเสบบีอาจไม่มีอาการ แต่ผลที่ตามมาอาจรุนแรงถึงชีวิต หากไม่ตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ การ ตรวจคัดกรองเป็นประจำ และ ฉีดวัคซีนป้องกัน จึงเป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องคุณและคนที่คุณรักจากภัยเงียบนี้ เนื่องในสัปดาห์วันตับอักเสบโลกนี้… อย่าลืมมาตรวจสุขภาพตับของคุณนะ เพื่อให้ตับทำงานต่อไปได้อย่างแข็งแรง เพราะสุขภาพดี…เริ่มต้นที่ “รู้ทัน” ก่อนจะ “รู้ตัว” เมื่อสายเกินไป