ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือที่หลายคนรู้จักกันว่า “หัวใจวาย” เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดหัวใจที่ทำหน้าที่ส่งเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจเกิดการอุดตันอย่างกะทันหันจากลิ่มเลือด เมื่อหลอดเลือดอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจจะเริ่ม "ขาดเลือด" และ "ขาดออกซิเจน" ภายในเวลาไม่กี่นาที ถ้าปล่อยไว้นานเกินไป เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจจะเริ่ม “ตายถาวร” และไม่สามารถฟื้นกลับมาได้อีก ดังนั้น... เวลาคือสิ่งสำคัญที่สุด!

มาตรฐานการรักษาทั่วโลกกำหนดว่า ผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ควรได้รับการเปิดหลอดเลือดที่อุดตันภายใน 90 นาทีหลังมาถึงโรงพยาบาล ขั้นตอนนี้เรียกว่า “การขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน (PCI)” ซึ่งช่วยให้เลือดกลับมาไหลเวียนได้อีกครั้ง
เหตุผลคือ...
● หากรักษาได้ภายใน 90 นาทีแรก — กล้ามเนื้อหัวใจส่วนใหญ่จะยังไม่ตาย สามารถฟื้นตัวได้ดี
● หากล่าช้ากว่านั้น — กล้ามเนื้อหัวใจเริ่มเสียหายถาวร โอกาสรอดชีวิตลดลง และเสี่ยงหัวใจล้มเหลวในอนาคต
● ทุก 30 นาทีที่ช้าออกไป — เพิ่มโอกาสเสียชีวิตได้ถึง 7–10%
ดังนั้น "90 นาที" จึงไม่ใช่ตัวเลขที่บังเอิญ แต่เป็น “เวลาทอง” ที่ทีมแพทย์ทั่วโลกใช้เป็นมาตรฐานช่วยชีวิตผู้ป่วยหัวใจขาดเลือด
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบโทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยฉุกเฉิน (1669) ทันที
● เจ็บแน่นกลางหน้าอก คล้ายมีของหนักทับ (นานเกิน 10 นาที)
● เจ็บร้าวไปที่แขนซ้าย คอ กราม หรือหลัง
● เหงื่อแตกมาก หน้ามืด คลื่นไส้ หายใจไม่อิ่ม
● บางราย (โดยเฉพาะผู้หญิง หรือผู้สูงอายุ) อาจมีอาการ “เหนื่อยง่าย” แต่อาจไม่เจ็บหน้าอก
อย่ารอให้หายเอง เพราะทุกนาทีมีค่า — โทรเรียกรถพยาบาลทันที!
หลายครั้งข่าวที่เราเห็น เช่น “รถพยาบาลถูกขวางทาง” อาจดูเหมือนเรื่องเล็ก... แต่สำหรับผู้ป่วยหัวใจขาดเลือดนั่นอาจหมายถึงการเสียเวลาชีวิตอันมีค่า การเปิดทางให้รถพยาบาลจึงไม่ใช่แค่ “มารยาทบนท้องถนน” แต่คือ “การช่วยชีวิต” ที่เราทุกคนทำได้ทันทีจำไว้ว่า... "90 นาที" เริ่มนับตั้งแต่วินาทีแรกที่ผู้ป่วยมีอาการ ทุกวินาทีที่ช่วยย่นเวลา คือโอกาสรอดที่เพิ่มขึ้น
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์ทำอะไรบ้าง ?
โรงพยาบาลที่มีศูนย์หัวใจ (Cath Lab) และทีมแพทย์เฉพาะทาง จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน ดังนี้
● ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ทันที เพื่อยืนยันว่ามีภาวะหัวใจขาดเลือดหรือไม่
● เตรียมทีมสวนหัวใจ (Cath Lab Team) ทำการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน หรือใส่ขดลวด (Stent)
● ติดตามอาการใกล้ชิดในหอผู้ป่วยหัวใจ (CCU) เพื่อประเมินการฟื้นตัวและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
หากทุกขั้นตอนดำเนินไปอย่างรวดเร็วภายใน 90 นาที โอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยจะสูงขึ้นอย่างมาก และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ
แม้ภาวะหัวใจขาดเลือดจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน แต่เราสามารถ “ลดความเสี่ยง” ได้ด้วยการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เช่น
● ตรวจสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดประจำปี
● ควบคุมความดันโลหิต น้ำตาล และไขมันให้อยู่ในเกณฑ์
● เลิกสูบบุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
● หากมีอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย ควรพบแพทย์โดยเร็ว
90 นาที...ไม่ใช่ตัวเลขธรรมดา แต่คือเส้นแบ่งระหว่าง “หัวใจที่ฟื้นได้” กับ “หัวใจที่สายเกินไป” เพราะหัวใจของเรา... ไม่มีอะไหล่สำรอง รีบตรวจ รู้เร็ว รักษาไว ...คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้หัวใจเต้นต่อไปได้อย่างแข็งแรง ให้วัฒนแพทย์ของเรา ดูแล