บริจาคเลือดแล้วร่างกายจะอ่อนแอจริงไหม? ไขความเชื่อผิดๆ

       บริจาคเลือด คือ การนำเลือดบางส่วนจากร่างกายของผู้บริจาคไปใช้สำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการเลือด ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัด ผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุ หรือผู้ที่มีโรคที่ทำให้ขาดเลือด เป็นต้น โดยการบริจาคเลือดเป็นการทำบุญที่ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์และยังมีประโยชน์หลายประการต่อสุขภาพของผู้บริจาคด้วย



ความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า "บริจาคเลือดแล้วร่างกายจะอ่อนแอ"

       หนึ่งในความเชื่อที่พบบ่อยและทำให้หลายคนลังเลไม่กล้าบริจาคเลือด คือ ความคิดที่ว่า “บริจาคเลือดแล้วจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ” ซึ่งอาจมาจากความกังวลว่าการเสียเลือดจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารหรือภูมิคุ้มกันลดลง จึงส่งผลต่อสุขภาพและความแข็งแรงโดยรวม


ข้อเท็จจริงทางการแพทย์เกี่ยวกับการบริจาคเลือด

       1. ร่างกายมีระบบสร้างเลือดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากบริจาคเลือด ร่างกายจะเริ่มกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดงและส่วนประกอบในเลือดใหม่ทันที เพื่อทดแทนส่วนที่เสียไป โดยปกติร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ในการฟื้นฟูปริมาณเลือดให้กลับสู่ระดับปกติ

       2. ปริมาณเลือดที่บริจาคไม่ได้มากเกินไป การบริจาคเลือดแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 450-500 มิลลิลิตร ซึ่งเป็นปริมาณที่ร่างกายสามารถทดแทนได้อย่างปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดภาวะเลือดจางหรือเสียเลือดมากเกินไปหากผู้บริจาคมีสุขภาพดีและได้รับการตรวจคัดกรองก่อนบริจาค

       3. การบริจาคเลือดไม่ได้ทำลายภูมิคุ้มกันร่างกาย เลือดประกอบด้วยเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และพลาสมา เม็ดเลือดขาวเป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะถูกสร้างใหม่อย่างต่อเนื่อง การบริจาคเลือดไม่ได้ทำลายหรือทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอย่างถาวร

       4. ร่างกายจะสูญเสียธาตุเหล็กชั่วคราว แต่สามารถเติมเต็มได้ ธาตุเหล็กในเลือดอาจลดลงหลังบริจาคเลือด ทำให้บางคนรู้สึกอ่อนเพลียชั่วคราว แต่หากรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเพียงพอ เช่น เนื้อแดง ผักใบเขียว ไข่ หรืออาหารเสริมธาตุเหล็ก ร่างกายก็จะสามารถฟื้นฟูธาตุเหล็กได้เร็ว


เหตุผลที่บางคนอาจรู้สึกอ่อนแอหลังบริจาคเลือด

        • ภาวะขาดน้ำหรืออาหารก่อนบริจาค หากผู้บริจาคไม่ได้ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารเพียงพอก่อนบริจาค อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนหรืออ่อนเพลียหลังบริจาคได้

        • พักผ่อนน้อยหรือสุขภาพไม่สมบูรณ์ก่อนบริจาค ผู้ที่มีสุขภาพอ่อนแอหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจมีอาการอ่อนเพลียมากขึ้นหลังบริจาค

        • ความวิตกกังวลหรือความเครียดระหว่างบริจาค บางคนอาจมีอาการกลัวเข็มหรือวิตกกังวล ทำให้อ่อนเพลียหรือเวียนศีรษะได้

        • ปริมาณเลือดที่บริจาคมากเกินไป (กรณีผิดปกติ) หากบริจาคเลือดมากเกินกว่าที่กำหนด หรือบริจาคถี่เกินไปโดยไม่พักให้ร่างกายฟื้นตัว อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจางและอ่อนเพลียได้


วิธีการป้องกันและดูแลตัวเองหลังบริจาคเลือด

       1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยเติมเต็มปริมาณเลือดและป้องกันการขาดน้ำ

       2. รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กและวิตามินสูง เพื่อช่วยเติมเต็มธาตุเหล็กและสารอาหารที่จำเป็น

       3. พักผ่อนให้เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก ๆ ในวันบริจาคและพักผ่อนให้เพียงพอ

       4. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ในวันบริจาค เพื่อไม่ให้ร่างกายทำงานหนักเกินไป

       5. สังเกตอาการผิดปกติ หากมีอาการเวียนศีรษะรุนแรง หรือมีเลือดออกไม่หยุด ควรแจ้งเจ้าหน้าที่หรือไปพบแพทย์ทันที



การบริจาคเลือดไม่ได้ทำให้ร่างกายอ่อนแอในระยะยาว

       หากผู้บริจาคมีสุขภาพแข็งแรง พักผ่อนและรับประทานอาหารที่เหมาะสม ร่างกายจะฟื้นฟูเลือดที่เสียไปได้อย่างรวดเร็ว และยังมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นที่ต้องการเลือดอย่างมากมาย

       ดังนั้น หากคุณมีสุขภาพดีและไม่มีข้อห้ามทางการแพทย์ อย่าปล่อยให้ความเชื่อผิด ๆ มาหยุดคุณจากการเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตผู้อื่นด้วยการบริจาคโลหิต